วิธีทำบ้านให้หอมสดชื่นอย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมบำบัดสุขภาพ
เรื่อง “กลิ่น” เป็นสิ่งที่สำคัญและมีผลกระทบต่อความรู้สึกของคนเรา เช่นเดียวกับ กลิ่นในบ้าน สถานที่ซึ่งเราต้องใช้เวลาส่วนใหญ่พักผ่อน ทำกิจกรรมต่างๆ ถ้าบ้านมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ เราก็คงไม่อยากอยู่ มาทำบ้านให้หอมอย่างที่ต้องการกันดีกว่า เลยนำเทคนิคสร้างกลิ่นในบ้านโดยใช้ของที่มีอยู่ในธรรมชาติ มาปรับ กลิ่นในบ้าน ให้หอมสดชื่นได้อย่างน่าทึ่ง
เลม่อนและโรสแมรี่ : ถ้าอยากให้บ้านมีกลิ่นสะอาดสดชื่น เราสามารถนำเลม่อน และโรสแมรี่ มาผสมลงในน้ำจากนั้นอาจจะใส่กลิ่นวนิลาเพิ่มลงไปเล็กน้อย หาภาชนะที่มีในบ้านมาใส่ เพียงแค่นี้ จะทำให้บ้านมีกลิ่นสดชื่นขึ้นได้
ไลแลค และดอกไม้กลิ่นหอม : เป็นดอกไม้กลิ่นหอมที่ใคร ๆ ก็ชอบ หากนำมาไว้ในบ้าน ด้วยการนำน้ำ ผสมวอดก้า และน้ำมันไลแลค เราสามารถทำสเปรย์กลิ่นไลแลคใช้เอง จะทำให้บรรยากาศมีความสดชื่นเหมือนฤดูใบไม้ผลิ
ผงโรยพรมกลิ่นโรสแมรี่ และลาเวนเดอร์ : ช่วยให้พรมมีกลิ่นสดชื่นเป็นธรรมชาติ แค่น้ำมันลาเวนเดอร์ แล้วนำไปโรยบนพรม ทิ้งไว้สัก 15-20 นาที จากนั้นก็ใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดออก กลิ่นในห้องก็จะหอมสดชื่น ผสมเบกกิ้งโซดา กับดอกโรสแมรี่แห้ง
ต้มส่วนผสมที่มีกลิ่นสดชื่น : การนำเอาผลไม้ที่มีกลิ่นสดชื่น มาต้มรวมกัน ก็ทำให้มีกลิ่นสดชื่นในบ้าน เราสามารถต้มแล้วเก็บไว้ในขวด เป็นการเพิ่มความหอมให้กับบ้านอย่างง่าย ๆ ด้วยตัวเอง
น้ำหอมในบ้านแบบเสียบปลั๊กเมื่อกลิ่นหมดแล้วอย่าทิ้ง : บางคนนิยมใช้น้ำหอมแบบเสียบปลั๊กให้ความหอมระเหยออกมา แต่เมื่อน้ำหอมหมดกลิ่นแล้ว อย่าเพิ่งทิ้ง แค่ใส่น้ำมันหอมระเหยผสมน้ำลงไป ก็ใช้ต่อได้

ซินนามอน และส้ม : ให้นำโพลิมเมอร์ดูดน้ำมาใช้ ใส่น้ำมันหอมระเหยซินนามอน และน้ำมันหอมระเหยกลิ่นส้ม ผสมน้ำ จะทำให้บ้านมีกลิ่นเหมือนกับฤดูใบไม้ร่วง
การอบแคนเบอรรี่ และส้ม กับถุงเครื่องหอม : สามารถทำถุงเครื่องหอม ด้วยการใช้แคนเบอรี่ และส้ม มาทำการอบแห้งอาจจะเพิ่มซินนามอน วนิลา โรสแมรี่ เพื่อเพิ่มให้บรรยากาศอบอุ่นเหมือนช่วงคริสต์มาส และ จันทน์เทศ
ทำก้านไม้หอมปรับอากาศ : เราสามารถทำก้านไม้หอมปรับอากาศใช้เองได้ แค่นำเอาภาชนะแก้วมาเปิด ออกแบบบ้าน ผสมแอลกอฮอล์ น้ำมันอัลมอนต์ น้ำมันหอมระเหย และก้านหอมลงไป อาจจะเลือกใส่กลิ่นลาเวนเดอร์ เพื่อความสดชื่น ในห้องนอน และใส่กลิ่นสดชื่นอย่างมะนาวในห้องครัว
เปลี่ยนกลิ่นเหม็นอับในบ้าน ให้กลับมาสดชื่น
ก้อนดับกลิ่นทำมือ
ถ้าไม่อยากใช้สเปรย์ปรับอากาศทั่วไปหรือน้ำหอมปรับอากาศที่ระคายเคือง ให้นำตะไคร้สด ชิงสด และข่าสด หั่นเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย หรือใช้ครกตำสมุนไพรเหล่านี้แบบไม่ต้องละเอียดมาก และห่อด้วยผ้าขาวบางในลักษณะเป็นก้อนกลมแบบลูกประคบ หลังจากนั้น เราสามารถนำก้อนดับกลิ่นทำมือไปแขวนในห้องที่มีกลิ่นอับ เพื่อให้ช่วยดูดซับกลิ่นได้อย่างเป็นธรรมชาติ
ของคู่ครัวสารพัดประโยชน์
น้ำส้มสายชูคู่ครัวมีคุณสมบัติที่สามารถช่วยขจัดกลิ่นอับได้ เพียงแค่นำน้ำส้มสายชูใส่ในภาชนะ เช่น แก้วน้ำหรือจานชาม และตั้งทิ้งไว้ในห้อง กลิ่นอับในห้องจะค่อยๆลดลงและหมดไปได้
ผงฟูที่เป็นส่วนประกอบช่วยให้ขนมปังพองฟูเป็นก้อนนำใส่จานและวางไว้ในห้อง เพื่อให้ผงฟูช่วยดูดซับกลิ่นทำให้ห้องปราศจากกลิ่นอับได้ รวมถึงการนำขนมปังขาวเทใส่ชามและน้ำส้มสายชู เพื่อนำไปวางทิ้งไว้ในตู้
เสื้อผ้าที่มีกลิ่นประมาณ 24 ชั่วโมง เพื่อช่วยกำจัดกลิ่นในตู้เสื้อผ้า
เบคกิ้งโซดา แก้ปัญหาเรื่องกลิ่นรองเท้าที่ทำให้ บรรยากาศบ้าน ไม่สุนทรีย์ โดยโรยในรองเท้า และนำรองเท้าใส่ถุงพลาสติกผูกให้แน่น โดยนำไปแช่ช่องแข็งในตู้เย็นทิ้งไว้ประมาณ 1-2 คืน ก่อนจะนำรองเท้าทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้องและเทผงเบคกิ้งโซดาทิ้ง โดยใช้กระดาษหนังสือพิมพ์อัดเข้าไปในรองเท้า เพื่อให้หมึกพิมพ์ช่วยดูดกลิ่นในรองเท้าได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น
สำรวจหาต้นเหตุของกลิ่นไม่พ
เราควรพิจารณาหาต้นเหตุของก ลิ่น และกำจัดให้ถูกต้อง เช่น กลิ่นในห้องครัวที่ทำอาหาร
อันเนื่องมาจากถังขยะ แม้จะปิดฝาให้มิดชิดแล้วก็ย ังไม่รอดพ้นจากกลิ่นเหม็น เราสามารถแก้ไขได้ด้วยการนำ มะนาวฝานทิ้งลงถังขยะ หรือใช้ใช้หนังสือพิมพ์รองก ้นถังขยะ และปิดฝาถังให้มิดเพื่อป้องกันกลิ่นไม่ให้ฟุ้ งกระจาย
ส่วนกลิ่นในห้องครัวที่มาจา
การนำมะนาวที่หั่นเป็นชิ้นบางๆในลงในน้ำเดือดและตั
สำหรับกลิ่นที่เกิดขึ้นในตู
รวมถึงใช้ผงกาแฟเทใส่ถ้วยเป
เก็บกวาดห้องให้หมดจด
สาเหตุที่ทำให้ห้องเกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ เช่น จานชามช้อนส้อมที่ยังไม่ได้ล้าง ถุงขนม อาหารหมดอายุ ซึ่งเราควรจัดการเก็บกวาดให้เรียบร้อย โดยเฉพาะผ้าเปียกที่ไม่ควรไว้ในห้อง
เพราะเป็นตัวการสำคัญของกลิ่นอับชื้น รวมถึงการดูแลรักษาพื้นพรมไม่ให้โดนน้ำหรือขนม เพราะเป็นแหล่งสะสมของสิ่งสกปรกและทำให้เกิดกลิ่นที่ยากต่อการกำจัด รวมถึงการทำความสะอาดที่นอน
ไม่ว่าจะเป็นเครื่องใช้ในบ้าน หมอน ผ้าปูที่นอน ผ้าห่ม เตียงนอน ผ้าคลุมเตียงเป็นต้น เพื่อขจัดหนึ่งในต้นเหตุกลิ่นอับ และเพื่อสุขอนามัย และป้องกันไรฝุ่นได้
โดยควรนำชุดเครื่องนอนมาตากแดดฆ่าเชื้อโรคและหมั่นทำความสะอาดเป็นประจำทุก 2 สัปดาห์ ทำให้ห้องสดชื่นได้ เรายังสามารถใช้เดทตอลน้ำยาขจัดเชื้อโรคถูพื้นห้องให้สะอาด
เพื่อเพิ่มความหอมสดชื่นและช่วยกำจัดเชื้อโรคในห้องได้เป็นอย่างดี หรือจะเลือกใช้สเปรย์ปรับอากาศเพิ่มความสดชื่นภายในห้องได้ตามความต้องการ
ใช้ธรรมชาติเข้าช่วย
ด้วยการให้สายลมแสงแดดที่อยู่ในธรรมชาติเป็นผู้ช่วยขจัดกลิ่นเหม็นอับ โดยใช้เวลาในวันหยุดพักผ่อนให้เป็นประโยชน์ แค่เปิดประตูหน้าต่างให้อากาศถ่ายเทในห้อง เพื่อให้อากาศหมุนเวียนและให้แสงแดดช่วยขจัดกลิ่นอับ *ที ทรี ออย นั้นเป็นสารธรรมชาติที่มีฤทธิในการกำจัดแบคทีเรีย ได้ดีพอ ๆ กับยาฆ่าเชื้อราและยาฆ่าเชื้อ ดังนั้นคุณจึงสามารถที่จะใช้มันเพื่อฆ่าเชื้อโรคได้โดยไม่ต้องใช้สารเคมี
วิธีทำสเปรย์ปรับอากาศง่ายๆ ได้กลิ่นหอมโดนใจ
สเปรย์ปรับอากาศเพื่อเพิ่มความหอมสดชื่นให้พื้นที่ก็เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่ช่วยแก้ปัญหาในเรื่องของกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ เพื่อความเป็นอยู่ที่สบายจากการสูดดมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายสมองจากกลิ่นหอมภายในอากาศ แถมยังสามารถทำเองได้อีกต่างหาก โดยวันนี้เราก็รวบรวมวิธีทำมาให้แล้วกับสเปรย์ปรับอากาศในรถและสเปรย์ปรับอากาศในห้องนอน
วิธีทำสเปรย์ปรับอากาศในห้องนอน
หากพูดถึงเรื่องของกลิ่นในห้องนอน กลิ่นที่เหมาะสมควรเป็นกลิ่นหอมเบาสบายช่วยผ่อนคลายความเครียดได้อย่างมีประสิทธิภาพและช่วยให้นอนหลับสบายยามค่ำคืน วันนี้เราก็มีวิธีทำสเปรย์ปรับอากาศในห้องนอนมาฝากแบบ DIY สามารถทำได้ด้วยตัวเองไม่จำเป็นต้องซื้อให้สิ้นเปลือง
สูตรสเปรย์มะนาว
สเปรย์ปรับอากาศในห้องนอนกลิ่นแรกมามาพร้อมกับสูตรมะนาว ที่ช่วยลดกลิ่นอับหรือกลิ่นไม่พึงประสงค์ภายในห้องนอนได้ วิธีทำ คือ นำผงเบกกิ้งโซดาปริมาณ 1/8 ถ้วย เทลงในน้ำอุ่น 2 ถ้วย จากนั้นเติมน้ำมะนาวตามลงไปครึ่งถ้วย แล้วเทส่วนผสมทั้งหมดลงในขวดแล้วเขย่า เท่านี้ก็จะได้ออกมาเป็น ผลิตภัณฑ์สเปรย์ปรับอากาศกลิ่นมะนาว
ข้อดีของกลิ่นมะนาว ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายเพราะในมะนาวมีกลิ่นซีตรัสที่ช่วยให้รู้สึกสดชื่น หากสูดดมเข้าไปสมองจะผ่อนคลายจากความเครียด ทั้งยังช่วยแก้ปัญหานอนไม่หลับได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนเซโรโทนิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนแห่งการนอนหลับออกมา
สูตรสเปรย์ลาเวนเดอร์
สเปรย์ปรับอากาศกลิ่นยอดนิยมต้องขอยกให้กับกลิ่นลาเวนเดอร์ วิธีทำให้เตรียมน้ำกลั่นเอาไว้ 2 ถ้วยตวง วอดก้า 2 ช้อนโต๊ะและน้ำมันหอมระเหยกลิ่นลาเวนเดอร์ครึ่งช้อนชา จากนั้นนำส่วนผสมทั้งหมดเทรวมกันในกระบอกสเปรย์แล้วเขย่า ก็จะได้ออกมาเป็นสเปรย์ปรับอากาศกลิ่นลาเวนเดอร์ในที่สุด
ข้อดีของกลิ่นลาเวนเดอร์คือช่วยลดอาการตึงเครียด หากได้รับกลิ่นหอมจากลาเวนเดอร์ตอนนอน เมื่อตื่นเช้าขึ้นมาสมองจะปลอดโปร่ง ให้สมองได้รู้สึกถึงการพักผ่อน ทั้งยังช่วยให้นอนหลับสบาย แก้ปัญหานอนไม่หลับได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยปรับสมดุลการไหลเวียนของโลหิต แก้ปัญหาไมเกรน อีกทั้งยังช่วยรักษาปัญหาที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจได้ด้วย
สูตรสเปรย์ส้ม
วิธีทำสเปรย์ปรับอากาศกลิ่นส้ม คือเริ่มแรกให้เทน้ำกลั่น 3 ช้อนโต๊ะ ผสมกับวอดก้า 3 ช้อนโต๊ะและน้ำมันหอมระเหยกลิ่นกลิ่นส้มไม่เกิน 20-30 หยด แล้วเขย่าขวดเพื่อให้ส่วนผสมรวมกันในขวดสเปรย์ จากนั้นก็สามารถนำไปฉีดบนที่ต่างๆ ในห้องนอนได้เลย
ข้อดีของกลิ่นส้มคือมีสารโฟเลตอยู่ช่วยกระตุ้นให้สมองหลั่งฮอร์โมนเซโรโทนินออกมา ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายและกระปรี้กระเปร่า ช่วยกระตุ้นระบบประสาทและช่วยให้การเผาผลาญพลังงานเป็นปกติ เมื่อสูดดมแล้วจะรู้สึกสดชื่น แจ่มใส เบิกบาน อารมณ์ดี
สูตรสเปรย์จากน้ำหอมเหลือใช้
นอกจากการนำสมุนไพรหรือส่วนผสมต่างๆ จากพืชมาทำเป็นเป็นสเปรย์แล้ว ยังมีอีกหนึ่งอย่างที่สามารถนำมาประยุกต์ทำเป็นสเปรย์ปรับอากาศได้ นั่นก็คือน้ำหอมเหลือใช้ โดยการนำน้ำหอมเหลือใช้ในปริมาณไม่ต้องมาก มาใส่ลงในน้ำสเปรย์ที่ผสมตามอัตราส่วนเอทานอลบริสุทธิ์ 4 ส่วน ต่อน้ำบริสุทธิ์ 6 ส่วน ก็จะได้ออกมาเป็นสเปรย์ปรับอากาศในที่สุด
ข้อดีของสูตรนี้คือช่วยเพิ่มมูลค่าของเหลือใช้ และช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากจะช่วยดับกลิ่นแล้วยังช่วยขจัดแบคทีเรียได้อีกด้วย
วิธีทำสเปรย์ปรับอากาศในรถ
อีกหนึ่งที่ ๆ มักมีกลิ่นอับเกิดขึ้นก็ คือ ภายในห้องโดยสารรถยนต์ สามารถดับได้ด้วยน้ำหอมปรับอากาศชนิดต่างๆ กลิ่นที่แนะนำควรเป็นกลิ่นลาเวนเดอร์ เพราะเป็นกลิ่นหอมอ่อนๆ เหมาะสำหรับปรับอากาศภายในรถยนต์ รวมถึงสเปรย์ปรับอากาศที่ฉีดพ่นภายในรถยนต์ อาจเอาสูตรการทำจากข้างบนมาปรับใช้ได้ แต่ภายในรถยนต์พื้นที่จะแคบกว่า ทำให้มีกลิ่นฉุนกว่า ดังนั้นการทำสเปรย์ปรับอากาศในรถ จึงควรใช้สัดส่วนของสารหอมระเหยที่น้อยกว่า
สำหรับน้ำหอมปรับอากาศชนิดอื่นเพื่อใช้ในรถยนต์ ก็มีสูตรการทำมาฝาก นั่นก็คือเจลปรับอากาศจากกลิ่นธรรมชาติ สิ่งที่ต้องเตรียม ได้แก่ ตระไคร้หรือเปลือกมะกรูดหรือดอกจำปีและเม็ดเจล แล้วนำตะไคร้หรือเปลือกมะกรูดหรือดอกจำปีไปต้มกับน้ำเปล่า จากนั้นนำน้ำที่ต้มมาแช่กับเม็ดเจลให้ดูดซึมน้ำเข้าไป แล้วนำเจลที่ดูดซึมน้ำทั้งหมดแล้วมาใส่ในบรรจุภัณฑ์ จากนั้นก็นำบรรจุภัณฑ์นั้นไปวางไว้ในรถ จะช่วยดูดกลิ่นอับกลิ่นเหม็นให้หายไปและส่งกลิ่นหอมตามชนิดของส่วนผสมที่ใช้
ที่นี้ก็จะได้สเปรย์ปรับอากาศในห้องนอนหรือในรถแบบ DIY ที่สามารถทำเองได้โดยไม่ต้องซื้อ สำหรับวิธีการทำ สเปรย์ปรับอากาศ ด้วยตัวเอง พร้อมกับสรรพคุณของส่วนผสมในแต่ละกลิ่นที่สามารถเลือกได้ตามใจชอบ เมื่อรู้แล้วว่าสเปรย์ปรับอากาศ กลิ่นไหนหอมโดนใจ ก็อย่าลืมนำไปทำตาม