พัฒนาการเด็กเล็กตามช่วงวัยใน 5 ปีแรก
พัฒนาการเด็ก เป็นสิ่งที่พ่อแม่ควรให้ความสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะพัฒนาการวัยทารกและในช่วง 1-5 ปีแรก พ่อแม่ควรเฝ้าดูพัฒนาการของลูกอย่างใกล้ชิดเพื่อให้แน่ใจว่าเด็กเติบโตอย่างสมบูรณ์ทุกด้าน หรือหากมีปัญหาก็จะสามารถแก้ไขได้แต่เนิ่น ๆ ดังนั้น พ่อแม่ควรทราบถึงพัฒนาการที่เหมาะสมของลูกน้อยตามช่วงวัย เรียนรู้วิธีส่งเสริมพัฒนาการ และหัดสังเกตความผิดปกติที่เกิดขึ้น เพื่อคอยดูแลให้เด็กเจริญเติบโตอย่างแข็งแรงสมวัย
พัฒนาการของเด็กแต่ละคนอาจแตกต่างกันไป เด็กบางคนอาจมีพัฒนาการรวดเร็วหรือช้ากว่าเด็กคนอื่น ๆ เล็กน้อย อย่างไรก็ตาม เด็กส่วนใหญ่มักมีพัฒนาการด้านร่างกาย สติปัญญา ภาษา อารมณ์ และสังคมในแต่ละช่วงอายุ ดังนี้
เด็กอายุ 18 เดือน หรือ 1.5 ขวบ
เป็นช่วงวัยกำลังหัดเดิน เด็กจะเจริญเติบโตช้าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับช่วง 0-12 เดือนแรก แต่จะเกิดความเปลี่ยนแปลงทั้งด้านร่างกาย การใช้ภาษา การเรียนรู้ การทรงตัว และการประสานงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกาย

พัฒนาการทางร่างกาย
- เริ่มควบคุมกล้ามเนื้อที่ใช้ปัสสาวะและขับถ่ายได้ แต่อาจยังไม่พร้อมต่อการใช้ห้องน้ำ
- เดินได้โดยไม่ต้องคอยช่วยเหลือ และเริ่มหัดวิ่งแต่ยังไม่ค่อยคล่องตัวหรืออาจหกล้มบ่อย ๆ
- เดินขึ้นบันไดได้โดยใช้มือข้างหนึ่งจับราวบันไดไว้
- เริ่มถอดเสื้อผ้าชิ้นที่ถอดออกง่ายได้ด้วยตนเอง เช่น หมวก ถุงมือ ถุงเท้า รองเท้า เป็นต้น
- ดื่มน้ำจากแก้วหรือใช้ช้อนตักอาหารกินเองได้โดยหกเลอะเพียงเล็กน้อย
- ขึ้นนั่งบนเก้าอี้ที่ไม่สูงมากได้โดยไม่ต้องช่วยเหลือ
- เปิดหนังสือโดยจับทีละ 2-3 หน้า
พัฒนาการทางสติปัญญาและภาษา
- พูดออกมาเป็นคำ ๆ ได้มากขึ้นหลายคำ โดยเป็นคำใหม่ ๆ ที่มีความหมาย และไม่ใช่คำว่าพ่อแม่ ชื่อคนคุ้นเคย ชื่อของ หรือชื่อสัตว์เลี้ยงในบ้าน
- พูดพร้อมกับส่ายหัวเพื่อบอกปฏิเสธ
- ชี้สิ่งของเพื่อบอกว่าอยากได้หรือเพื่อให้ผู้ใหญ่สนใจ
- เรียนรู้ชื่อและวัตถุประสงค์ของการใช้สิ่งต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น แปรงสีฟัน ช้อน โทรศัพท์ เป็นต้น
- ชี้และระบุชื่ออวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย หรือหลาย ๆ ส่วนได้
- แสดงความสนใจเมื่อเล่านิทานให้ฟังและมองภาพตาม
- ทำตามคำสั่งง่าย ๆ ที่ไม่ซับซ้อนโดยไม่ต้องใช้ท่าทางประกอบ เช่น ลุกขึ้น นั่งลง เป็นต้น
- มักเลียนแบบท่าทางของผู้ใหญ่
- เริ่มวาดขีดเขียนบนกระดาษหรือพยายามวาดรูปตามต้นแบบ
พัฒนาการทางสังคมและอารมณ์
- ให้ความสนใจตุ๊กตาและเล่นป้อนอาหารให้ตุ๊กตา
- ชอบเล่นโดยถือสิ่งของต่าง ๆ ไปยื่นให้คนอื่น
- อาจแสดงอารมณ์ฉุนเฉียวหรือโกรธ
- อาจกลัวคนแปลกหน้า และเกาะติดพ่อแม่หรือผู้ดูแลเมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่ไม่คุ้นเคย
- แสดงความกังวลเมื่อต้องแยกจากพ่อแม่หรือคนที่คุ้นเคย
- แสดงความรักต่อคนที่ตนคุ้นเคย เช่น จูบแบบปากจู๋ เกาะแขน เป็นต้น
- เดินดูสิ่งต่าง ๆ ตามลำพังได้ แต่ยังอยู่ในระยะใกล้กับผู้ดูแล
วิธีส่งเสริมพัฒนาการเด็ก ในวัยนี้
- อ่านนิทานให้เด็กฟัง
- จัดหาพื้นที่ว่างเพื่อให้เด็กทำกิจกรรมและได้เล่นสนุก
- หาของเล่นที่เลียนแบบอุปกรณ์จริง เช่น พลั่วพลาสติก ช้อนหรือส้อมพลาสติก เป็นต้น
- ให้เด็กมีส่วนช่วยในการทำกิจวัตรประจำวันเล็ก ๆ น้อย ๆ ภายในครอบครัว
- ส่งเสริมให้เด็กเล่นสร้างสิ่งต่าง ๆ อย่างการต่อตึก และสิ่งอื่น ๆ ที่เด็กได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์
- ให้เด็กได้เล่นกับเพื่อนในวัยเดียวกัน
- ชวนเล่นเกมง่าย ๆ เช่น เกมจิ๊กซอว์ เกมเติมของเล่นให้ตรงตามรูปร่างที่หายไป เป็นต้น
- ให้ของสำหรับปลอบโยนเมื่อเด็กต้องห่างพ่อแม่ เช่น ตุ๊กตาตัวโปรด เป็นต้น
- หลีกเลี่ยงการให้เด็กดูโทรทัศน์หรือวิดีโอจากอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ใด ๆ จนกว่าจะถึงอายุ 2 ขวบ
ความผิดปกติทางพัฒนาการ
- เดินไม่ได้
- ไม่ชี้สิ่งต่าง ๆ ให้ดู
- ไม่รู้ว่าสิ่งของที่ใช้เป็นประจำทุกวันคืออะไร หรือใช้เพื่ออะไร
- ไม่เลียนแบบท่าทางของคนอื่น ๆ
- ไม่เรียนรู้คำใหม่ ๆ หรือรู้คำศัพท์น้อยกว่า 4 คำ ซึ่งไม่รวมคำเรียกพ่อแม่อย่างปาป๊า มาม้า ชื่อสัตว์เลี้ยง หรือสิ่งของ
- ไม่แสดงความสนใจเมื่อพ่อแม่เพิ่งกลับมา หรือดูไม่กังวลเมื่อต้องห่างจากพ่อแม่
- สูญเสียทักษะบางอย่างที่เคยมี
เด็กอายุ 2 ขวบ
ในช่วงนี้พ่อแม่อาจเริ่มฝึกให้เด็กเข้าห้องน้ำได้แล้ว เพราะเด็กจะเริ่มรู้ตัวเมื่อปวดปัสสาวะหรืออุจจาระและแสดงท่าทางว่าต้องการขับถ่าย ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าเด็กพร้อมต่อการใช้ห้องน้ำและอาจไม่ต้องใส่ผ้าอ้อมอีกต่อไป รวมทั้งยังมีพัฒนาการด้านอื่น ๆ ดังนี้
พัฒนาการทางร่างกาย
- ยืนเขย่งเท้าได้ และยกสิ่งของขณะยืนได้โดยไม่เสียการทรงตัว
- เตะและทุ่มลูกบอลโดยยกแขนสูง วิ่งได้คล่องตัวกว่าเดิม
- ไต่ขึ้นลงเตียงหรือเก้าอี้ได้โดยไม่ต้องช่วยเหลือ
- ขึ้นลงบันได้โดยยังต้องจับราว
- เปิดลูกบิดประตูได้
- เปิดหนังสือทีละ 1 หน้าได้
- เริ่มใส่เสื้อผ้าชิ้นที่สวมใส่ง่าย ๆ ได้ด้วยตนเอง แต่จะถนัดถอดออกมากกว่า
- วาดเส้นและวงกลมตามต้นแบบได้
- ต่อบล็อกของเล่นเป็นหอสูง 4 ก้อนได้โดยไม่ล้ม
- เริ่มมีฟันน้ำนมงอกขึ้นมา
- มีพัฒนาการด้านการมองเห็นเพิ่มมากขึ้น
- เด็กจะสูงประมาณครึ่งหนึ่งของความสูงเมื่อโตเต็มที่
พัฒนาการทางสติปัญญาและภาษา
- แสดงท่าทางสื่อสารถึงสิ่งที่ตนต้องการได้ เช่น หิว กระหายน้ำ อยากเข้าห้องน้ำ เป็นต้น
- พูดเป็นวลีสั้น ๆ ที่ไม่ใช่คำนาม 2-3 คำ หรือพูดประโยคสั้น ๆ 2-4 คำ เช่น ร้องเพลง อาบน้ำ หรือกินนม เป็นต้น และพูดซ้ำตามบทสนทนาที่ได้ยิน
- เข้าใจคำสั่งที่ซับซ้อนกว่าเดิม เช่น หยิบบอลและใส่รองเท้า ถอดรองเท้าแล้ววางบนชั้น เป็นต้น
- เรียนรู้คำศัพท์เพิ่มขึ้นถึงประมาณ 50-300 คำ และอาจมากกว่านี้ในรายที่มีพัฒนาการเร็ว
- รับรู้ต่อสิ่งต่าง ๆ มากขึ้น
- อาจถนัดใช้มือข้างหนึ่งมากกว่าอีกข้าง
- เริ่มแยกแยะรูปทรงและสีต่าง ๆ ได้
- ชี้รูปภาพได้ถูกต้องตามคำบอก หรือระบุได้ว่าเป็นรูปอะไร เช่น นก ปลา แมว หมา เป็นต้น
- จดจำชื่อของคนที่คุ้นเคย และระบุชื่ออวัยวะต่าง ๆ บนร่างกายได้
พัฒนาการทางสังคมและอารมณ์
- เลียนแบบพฤติกรรมและท่าทางของผู้อื่น โดยเฉพาะผู้ใหญ่และเด็กที่โตกว่า
- ตื่นเต้นและกระตือรือร้นเมื่ออยู่กับเด็กคนอื่น ๆ
- พึ่งพาตัวเองได้มากขึ้น
- แสดงความดื้อและต่อต้าน โดยทำในสิ่งที่ถูกห้ามหรือเตือน
- ยังแยกเล่นคนเดียวแม้จะนั่งข้างเด็กคนอื่น แต่ก็เป็นช่วงที่กำลังจะเริ่มเล่นกับเด็กคนอื่น
วิธีส่งเสริมพัฒนาการเด็กในวัยนี้
- อ่านนิทานให้เด็กฟังและชี้ชวนให้ดูรูปภาพไปด้วย
- จัดสรรพื้นที่ให้เด็กได้วิ่งเล่นหรือทำกิจกรรมอย่างเพียงพอ
- ให้เด็กเล่นสร้างสิ่งของและฝึกใช้ความคิดสร้างสรรค์ เช่น ต่อแท่งไม้ ต่อตัวต่อ เป็นต้น
- ให้เด็กมีส่วนช่วยในกิจวัตรประจำวันของครอบครัว ufabet24 หรือการทำงานบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ
- ให้เด็กลองใช้อุปกรณ์ที่ปลอดภัยในการเลียนแบบกิจกรรมต่าง ๆ ของผู้ใหญ่ เพราะเด็กในวัยนี้มักชอบทำกิจกรรมเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างการกวาดพื้นหรือปัดฝุ่น
- พยายามหลีกเลี่ยงการให้เด็กดูโทรทัศน์และวิดีโอในโทรศัพท์หรือแท็บเล็ต หากให้ดูควรจำกัดเวลาให้น้อยกว่า 3 ชั่วโมงต่อวัน โดยเลือกเนื้อหาที่มีประโยชน์ ไม่รุนแรง และเบี่ยงเบนความสนใจด้วยการอ่านนิทานให้ฟังหรือชวนทำกิจกรรมอื่น ๆ ด้วย
- หากให้เด็กเล่นเกม ควรเลือกเกมที่ไม่รุนแรงและเหมาะสมกับเด็ก
ความผิดปกติทางพัฒนาการ
- เดินไม่มั่นคง หรือไม่คล่องตัว
- ยังไม่เริ่มพูดเป็นวลีหรือประโยคสั้น ๆ เช่น กินข้าว กินนม อาบน้ำ เป็นต้น
- ไม่รู้ว่าสิ่งของที่คุ้นเคยในชีวิตประจำวันใช้ทำอะไร เช่น จาน ชาม ช้อน แปรงสีฟัน เป็นต้น
- ไม่เลียนแบบพฤติกรรม คำพูด หรือคำศัพท์จากผู้อื่น
- ทำตามคำบอกง่าย ๆ ไม่ได้
- สูญเสียทักษะบางอย่างที่เคยมี
เด็กอายุ 3 ขวบ
เด็กช่วงวัยนี้ชอบเล่นสมมติบทบาทต่าง ๆ และมีจินตนาการมาก ทำให้เด็กอาจเกิดความกลัวต่อสิ่งต่าง ๆ ได้ง่าย เช่น ความมืด หรือสัตว์ประหลาด เป็นต้น พ่อแม่จึงควรรับฟังอย่างตั้งใจเมื่อเด็กพูดถึงสิ่งเหล่านี้ รวมทั้งคอยปลอบและอยู่เป็นเพื่อนให้เด็กหายวิตกกังวล
พัฒนาการทางร่างกาย
- ทรงตัวดีขึ้นกว่าเดิม กระโดดขาเดียวได้ ทรงตัวยืนขาเดียวได้ในเวลาสั้น ๆ
- วิ่งและปีนป่ายอย่างคล่องตัว ก้าวขึ้นลงบันไดอย่างคล่องแคล่วโดยไม่ต้องจับราวบันได
- ใส่และถอดเสื้อผ้าได้ด้วยตนเอง
- วางวัตถุหรือรูปทรงขนาดเล็กลงล็อกได้
- ปั่นจักรยาน 3 ล้อได้
- วาดรูปวงกลมโดยใช้ดินสอหรือดินสอสี
- มีพัฒนาการทางการมองเห็นที่เพิ่มขึ้นจากเดิม
- มีฟันน้ำนมครบ 20 ซี่
- อาจกลั้นปัสสาวะและอุจจาระได้ในตอนกลางวัน บางรายอาจกลั้นได้ในเวลากลางคืนด้วย
พัฒนาการทางสติปัญญาและภาษา
- ปฏิบัติตามคำบอก 2-3 ขั้นตอนได้
- เข้าใจคำบอกตำแหน่ง เช่น ใน บน ข้างใต้ ข้างล่าง เป็นต้น
- พูดชื่อตัวเอง อายุ และเพศ หรือบอกชื่อเพื่อนได้
- เริ่มใช้คำสรรพนามแทนตัวเอง หรือระบุลักษณะนามสิ่งของบางอย่างได้
- พูดสนทนาได้ยาวขึ้น โดยใช้ 2-3 ประโยค และสื่อสารให้คนแปลกหน้าเข้าใจได้
- เล่นแสดงบทบาทสมมติเป็นเรื่องราว โดยเล่นกับตุ๊กตา สัตว์ หรือคนอื่น ๆ
- เข้าใจและจดจำตัวเลขได้มากขึ้น
- วาดรูปวงกลมด้วยดินสอหรือสี
- เปิดและปิดฝาขวดได้
พัฒนาการทางสังคมและอารมณ์
- พยายามเลียนแบบผู้ใหญ่และเพื่อน
- แสดงความรักต่อเพื่อนโดยไม่ต้องถูกกระตุ้นหรือบอก
- แสดงความวิตกกังวลเมื่อเห็นเพื่อนร้องไห้
- รู้จักรอและเปลี่ยนให้เพื่อนเล่นเมื่อถึงคราวของเพื่อน
- เรียนรู้และเข้าใจเกี่ยวกับความเป็นเจ้าของ รู้ว่าอันไหนเป็นของตนเองหรือของคนอื่น
- แสดงอารมณ์อย่างหลากหลายมากขึ้น
- แยกจากพ่อแม่ได้ง่ายขึ้น ไม่แสดงความวิตกกังวลเหมือนช่วงก่อน
- อาจหงุดหงิดเมื่อกิจกรรมหลักที่ต้องทำทุกวันมีการเปลี่ยนแปลง